ทิพย์ชีวันเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่แสวงหาความอยู่ดีมีสุข สุขภาพแข็งแรงปราศจากโรคภัย โดยมุ่งเน้นที่อาหารปลอดเนื้อสัตว์รวมทั้งสิ่งเทียมทั้งกลิ่นและรูปแบบ ยังรวมถึงความสดของอาหารจะต้องไม่ค้างข้ามวัน การออกกำลังกายเพื่อรักษาสมรรถภาพทางร่างกายให้แข็งแรงตลอดเวลา การฝึกสมาธิเพื่อให้เกิดพลังสมองในการต่อสู้กับปัญหาต่างๆ
คุณสมบัติของผู้ที่เป็นทิพย์ชีวันมีดังนี้
1.ไม่เบียดเบียนผู้อื่น
2.ไม่โป้ปดมดเท็จ
3.ไม่เสพสิ่งของมึนเมา
4.ไม่คบคนพาล
5.มีปิยะวาจา
6.มีความกตัญญูรู้คุณ
7.อ่อนน้อมถ่อมตน
8.แสวงหาความรู้เสมอๆ
9.ไม่ฟุ้งเฟ้อฟุ่มเฟือย
10.เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
ประโยชน์ที่ได้รับ
1.จะเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง
2.จะเป็นที่ชื่นชอบของคนทั่วไป
3.จะเป็นคนใจเย็นไม่ก้าวร้าว
4.จะเป็นคนมีสติไตร่ตรอง
5.จะสามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้
อาหารทิพย์ชีวันเป็นอาหารที่ประกอบขึ้นอย่างง่ายๆจากพืชผักทุกชนิดโดยการลวกต้มหรือผัดให้สุกแล้วปรุงรสด้วยเครื่องปรุงประเภทน้ำตาล เกลือ ขิง พริกไทยและอื่นๆ(ยกเว้นพริกทุกชนิดเพราะมีฤทธิ์เผ็ดร้อนมากเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินอาหาร ซีอิ๊วไม่ใช้เป็นผลิตภัณ์ที่ไม่สดค้างเกิน1วัน รวมทั้งเครื่องปรุงรสทั้งหลายทั้งบรรจุซองและขวด)
เมนูอาหารแบบง่าย เป็นอาหารแบบโดด ใช้ผักอย่างเดียว เช่น คะน้า หรือ ผักกาดขาว หรือ กะหล่ำปลี จัดให้มีขนาดทานอิ่ม ประมาณ 250 กรัม แช่น้ำล้างให้สะอาด นำเอามาผัด ใส่เครื่องปรุง น้ำตาล เกลือ ผงชูรส แต่งรสชาดตามพอใจ กินอิ่มสบายท้อง
ไม่รู้สึกหิวบ่อย อยากกินนั่นนี่ การขับถ่ายก็ดี สุขภาพโดยรวมก็ดีขึ้น ลองดูแล้วจะติดใจ
ผลที่ได้จากการรับประทานอาหารที่ปลอดเนื้อสัตว์และได้กินของสดทำให้ได้สารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายอย่างเต็มที่รวมทั้งลดการติดเชื้อโรคจากอาหารที่ค้างเกิน1วัน เป็นอนิสงค์ทำให้ร่างกายกายแข็งแรงไม่ง่วงเหงาหาวนอน สดชื่นไม่ปวดเมื่อยให้รำคาญ มีพละกำลังในการทำงานได้อย่างไม่เหน็ดเหนื่อยทิพย์ชีวันสมาธิ
ทิพย์ชีวันสมาธิ เพื่อตรวจจับบริเวณที่เจ็บป่วยในร่างกายและสามารถรักษาได้โดยกินอาหารแบบทิพย์ชีวันร่วมกันวิธีทำสมาธิ
1.นอนราบกับฟูกที่นอนโดยไม่ใช้หมอน
2.กางขาเล็กน้อยกางแขนแบบยกมือยอมแพ้
3.กำกนดจิตหยุดนิ่งไม่คิดถึงสิ่งใดๆ
4.กำหนดจิตมุ่งไปยังจุดที่ต้องการค้นหา
สมมุติว่าต้องการค้นหาที่แขนซ้าย ให้กำหนดจิตไปที่ต้นแขนแถวหัวไหล่จากนั้นค่อยๆไล่ไปเรื่อยๆจนถึงปลายนิ้ว ระหว่างนั้นบริเวณใดที่ไล่ไปถึงมีการเจ็บหรือปวดผิดกับบริเวณอื่นแสดงว่าณ.จุดนั้นมีปัญหา ให้กำหนดจิตไปที่จุดนั้นๆจนกว่าการเจ็บปวดจะทุเลา ให้ทำซ้ำๆจนกว่าจะหาย ส่วนบริเณอื่นๆที่ต้องการค้นหาก็ทำแบบเดียวกัน(วิธีนี้เป็นวิธีรักษาอาการเจ็บภายในก่อนที่เป็นรุนแรงแสดงอาการภายนอก ซึ่งอาจต้องกินอาหารให้ถูกส่วนหรือยาเพื่อช่วย)
ออกกำลังลดความดันคนทำงานทั่วไปที่ไม่ค่อยมีเวลาหรือไม่ชอบตื่นเช้าเพื่อออกไปวิ่งเพื่อให้ร่างกายสดชื่นหัวใจแข็งแรงขจัดโรคร้ายออกทางเหงื่อหรือคนสูงวัยหรือคนที่ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงไม่สามารถออกกำลังกายแบบหนักหรือแบบว่าเดินเหิรก็ยังลำบาก ผมมีวิธีบริหารกายแบบง่ายๆเพื่อให้หัวใจสูบฉีดเลือดได้ดีและเพิ่มความแข็งแรงของช่วงแขนและหน้าอกดังนี้
1.เอาเข่าลงบนฟูกพร้อมกับแขนเท้ากับฟูกในลักษณะเหยียดตรงเหมือนคลาน กางมือให้อยู่ในท่าสบายที่สุด
2.โยกตัวไปหน้าและหลังอย่างช้าๆโดยที่เข่าและมือไม่ต้องขยับซัก10ครั้ง
3.งอแขนทั้ง2ข้างเพื่อให้หน้าแตะพื้นให้มากที่สุดทำช้าๆขึ้นลง10ครั้ง
ผลที่ได้คือเลือดจะมีการสูบฉีดแขนและช่วงอกเป็นการออกกำลังให้หลอดเลือดได้ออกกำลังยืดตัวและหดตัว
กลิ่นปาก
กลิ่นปากที่ไม่สะอาดนำความทุกข์มาให้กับเจ้าของกลิ่น ทำให้ขาดความมั่นใจในการแสดงออกทางวาจา ต้องเป็นคนเงียบเก็บกดจากปมด้วยที่ไม่รู้จะแก้ไขอย่างไร ความจริงร่างกายคนเรามีส่วนที่แตกต่างในรายละเอียดของโครงสร้างเช่น DNA ที่แตกต่างกัน กลุ่มเลือดคนละชนิด แล้วอะไรอีกละที่วงการวิทยาศาสตร์ยังค้นหาไม่เจอ บางคนแพ้อาหารทะเล บางคนแพ้ถั่ว นั่นแสดงว่าร่างกายแต่ละคนย่อมต้องการอาหารที่มาบำรุงร่างกายที่ต่างกัน คนที่มีกลิ่นปากไม่หายน่าจะมาจากอาหารที่เรากินประจำทั้งจากในบ้านและนอกบ้านซึ่งเหมาะกับคนส่วนใหญ่แต่อาจไม่เหมาะกับเรา หลายท่านอาจจะลองมาหมดแล้วไม่ว่าจะมังสะวิรัติหรืออาหารเจซึ่งยังให้ไม่เป็นที่น่าพอใจ ผมอยากให้ท่านลองอาหารแบบทิพย์ชีวัน รายละเอียดคร่าวๆอ่านหัวข้อ"ทิพย์ชีวัน" ร่วมกับการทำความสะอาดปากด้วยยาสีฟันผงหอมทิพย์โดยการแปรงให้ทั่วทั้งลิ้น ฟันและกระพุ้งแก้ม น่าจะหายได้ในไม่ช้า ขอให้คนที่ได้ทดลองโชคดีนะครับ***ใน กรณีที่เคยมีประวัติเป็นโรคกระเพาะหรือมีแผลในกระเพาะอาหาร ควรหลีกเลี่ยงอาหารกรอบแข็ง อาหารทอด ไขมันสูง ควรกินอาหารอ่อนๆเพื่อสุขภาพที่ดี
สำหรับท่านที่ปวดเมื่อยหายากินยาทาไม่หาย ลองดู --> ที่นี่
วิธีทดสอบกลิ่นปาก:
http://rnrngmk.blogspot.com/2010/08/blog-post_28.html
ขจัดกลิ่นปากดูที่นี่:
http://rnrngmk.blogspot.com/2010/05/blog-post_14.html
